วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

                                                                  ตั้งประเด็นที่สนใจ

1.นางสาว กนกธร ไชยพันโท เลขที่ 23 ม. 4/5
2.การเข้าร่วมประชาคมอาเซียนในประเทศ
3.คำถาม
3.1ถ้าเปิดอาเซียนทำไมไม่เอาภาษาไทยเป็นหลักในการสื่อสาร
 =ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วโลก ในอาเซียนจึงต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการสื่อสาร

ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย


ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยโดยเฉลี่ย จากคะแนน TOEFL iBT กับประเทศอื่นในอาเซียน (ยกเว้นบรูไน) พบว่าคะแนน TOEFL iBT เฉลี่ยของไทยในปี 2553 อยู่ที่ 75 คะแนน จากคะแนนเต็ม 120 คะแนน สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามเท่านั้น แต่ยังต่ำกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในอาเซียนอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย สะท้อนให้เห็นว่าบุคลากรไทยยังมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนา ระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษให้สูงขึ้น เพราะการที่แรงงานไทยมีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษสูงขึ้น ไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับแรงงานจากชาติอาเซียนอื่นท่ามกลางการเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานภายใต้ AEC เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย

3.2ทำไมต้องมีอาเซียน


 =        "ประชาคมอาเซียน” หากพูดเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว หลายคนคงสงสัยว่าคืออะไร ดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวแต่ในวันนี้คงไม่ใช่เรื่องใหม่และไกลตัวเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากในปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยของเราจะเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียน นั่นหมายความว่า ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไปอีกขั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราทุกคน หน่วยงานต่างๆ จึงลุกขึ้นมาจัดกิจกรรม ให้ความรู้และแบ่งปันความคิดเห็นในมุมมองต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะมาถึง
         ทำไมต้องสร้างประชาคมอาเซียน?
         จากการที่สถานการณ์โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาหลายอย่างที่เคยเป็นปัญหาในประเทศกลับขยายวงกว้างขึ้นเป็นปัญหาระหว่างประเทศ เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคติดต่อ อาเซียนจึงต้องปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ด้วยเหตุนี้ การผนึกกำลังของอาเซียนซึ่งมีประเทศสมาชิก 10 ประเทศให้เข้มแข็ง ย่อมทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและปัญหาท้าทายได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น ผู้นำอาเซียน จึงเห็นพ้องกันว่า ควรกำหนดให้มีการสร้างประชาคมอาเซียนบน 3 เสาหลัก ภายในปี 2563 ซึ่งต่อมาเลื่อนให้เร็วขึ้น เป็นปี 2558
          1. ประชาคมการเมืองความมั่นคงอาเซียน
          2. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
          3. ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
           เสาหลักแรก คือ ประชาคมการเมืองความมั่นคงอาเซียน เน้นการรวมตัวของอาเซียน เพื่อสร้างความมั่นใจ เสถียรภาพ และสันติภาพในภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนในอาเซียนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และปราศจากภัยคุกคามจากด้านการทหารและภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สำหรับประเทศไทย นอกเหนือจากการให้การสนับสนุนและความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ยังผลักดันให้เพิ่มบทบาทของประธานในการทำหน้าที่ส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการส่งเสริมแนวคิด "การทูตเชิงป้องกัน” เพื่อช่วยลดปัญหาความขัดแย้งที่จะส่งผลกระทบต่อภูมิภาคโดยรวม
           เสาหลักที่สอง คือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เน้นให้ความสำคัญในเรื่องการตลาดและการมีฐานการผลิตร่วมกัน มีการเคลื่อนย้ายสินค้า การบริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินลงทุนอย่างเสรีมากขึ้น มีโครงการเชื่อมโยงเส้นทางหลวงอาเซียน มีความร่วมมือระหว่างประเทศในการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟจากสิงคโปร์ ผ่านไปยังมาเลเซีย ไทย กัมพูชา เวียดนาม และสิ้นสุดที่จีน ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากการขยายฐานการส่งออก และมีโอกาสทางการค้าด้านบริการที่ไทยมีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น เช่น ท่องเที่ยว โรงแรมและภัตตาคาร สุขภาพ ฯลฯ
            เสาหลักที่สาม คือ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน มุ่งหวังให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยเน้นการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจระหว่างประเทศสมาชิก ด้วยการเชื่อมโยงด้านประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ระดับภูมิภาคร่วมกัน
             ปัจจุบันอาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย การรวมตัวกันอย่างใกล้ชิดทางด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึง การขยายความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มโอกาสทางการค้า
และการลงทุนให้กับไทย ด้วยเหตุนี้ ทุกภาคส่วนจึงควรมีการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลัง จะเกิดขึ้นในทุกด้านๆ
            หากทุกคนในประเทศไทยในทุกภาคส่วนพร้อมใจกันก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ด้วยการเตรียมความพร้อมกันมาเป็นอย่างดีแล้ว เราคงจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจริญก้าวหน้าขึ้น อย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน.



3.3การเปิดอาเซียนมีผลดีอย่างไร



=

เมื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในประเทศไทย


ข้อดี ข้อเสีย ประเทศอาเซียน ประเทศไทย
การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย สิ่งที่จะเป็นไปได้ มีดังนี้
  1. ไทยได้เปรียบเรื่องการท่องเที่ยว เพราะอยู่ในทำเลศูนย์กลางกว่าอีกหลายประเทศ
  2. เศรษฐกิจไทยขยายตัว เพราะการเปิดเสรีด้านการค้า และประชากรอาเซียน 10 ประเทศรวมทั้งอาเซียน +3 และอาเซียน +6 รวมอยู่ในตลาดเดียวกัน
  3. ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ จากการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีระหว่างกัน
  4. มีความเจริญครอบคุมากขึ้น จากการพัฒนาถนนเชื่อมต่อภูมิภาค
  5. ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคถูกลง จากการนำเข้าวัตถุดิบปลอดภาษี และการนำเข้าสินค้าเกษตรราคาถูกจากประเทศสมาชิก
  6. ผู้ประกอบการไทยสามารถย้ายฐานการผลิตไปยังประเทสสมาชิกทีมีค่าแรงถูกกว่าได้เพื่อลดต้นทุน
  7. พลเมืองไทยที่อ่อนด้วยภาาาอังกฤษ จะหางานทำยากขึ้น
  8. แรงงานต่างด้าวแย่งใช้บริการพื้นฐานต่างๆ กับคนไทย เช่น โรงพยาบาล ไฟฟ้า ประปา
  9. มีปัญหายาเสพติด อาชญากรรม ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น จากการเปิดด่านชายแดนที่เดินเข้าออกสะดวก และประชากรไม่รู้ธรรมเนียมและกฏหมายไทย ของพลเมืองอาเซียนชาติอื่น
*มีวิชาชีพ 7 สาขา ที่อาเซียนตกลงกันให้เคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือได้อย่างเสรีในประชาคมอาเซียน คือ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี และนกสำรวจ โดยอาเซียนได้กำหนดคุณสมบัติร่วมของอาชีพเหล่านี้ไว้ด้วย ใครอยากไปทำงานในประเทศอาเซียน ก็ต้องเรียนสาขานี้ไว้ก่อน



3.4ทำไมเราจึงต้องเตรียมพร้อมการเข้าสู่อาเซียน


=ประเทศในสมาชิกมีหลายประเทศ เพราฉะนั้นแต่ละประเทศจึงต้องมีการเตรียมการเพื่อเข้าใจในด้านภาษาเพื่อจะได้คุยกันรู้เรื่อง
News Feeds:
การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน - ประชาคมอาเซียนคืออะไร - ประชาคมอาเซียน หมายถึง
ใน สภาวะแห่งยุคทุนนิยม ที่เศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนและผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ก้าวรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ประกอบกับประเทศต่าง ๆ นั้นอยู่รวมกันเป็นสังคมโลก ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายได้ จึงต้องมีการรวมตัวกันของประเทศในแต่ละภูมิภาคเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ร่วมและพัฒนาประเทศในภูมิภาคไปพร้อม ๆ กัน ด้วยเหตุนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ อาเซียน จึงได้มีข้อตกลงให้อาเซียนรวมตัวเป็นชุมชนหรือประชาคมเดียวกันให้สำเร็จภาย ในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015)

แต่ ก่อนที่เราจะมาดูเนื้อหาสาระของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนนี้ เราจะมาย้อนดูกันรวมตัวกันของประเทศในอาเซียนว่ามีการรวมตัวกันได้อย่างไร จนมาเป็นอาเซียนในปัจจุบัน

โดยอาเซียนหรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  (ASEAN : The Association of South East Asian Nations) ได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2510 โดยประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียน คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต่อมาในปีพ.ศ.2527 บรูไน ดารุสซาลาม ได้เข้ามาเป็นสมาชิก ตามด้วยเวียดนามเข้ามาเป็นสมาชิกเมื่อ พ.ศ. 2538  ขณะที่พม่าและลาวเข้ามาเป็นสมาชิกใน พ.ศ.2540 และประเทศสุดท้ายคือกัมพูชา เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่อ พ.ศ. 2542  ปัจจุบันอาเซียนมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ

3.5ในกลุ่มอาเซียนของเราทำไมต้องมี 10 ประเทศ

=เพราะจะได้มีความมั่นคงในการร่วมกลุ่มที่ดีมากขึ้น
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations) ที่ก่อตั้งในปี 1967 มีรัฐสมาชิกเริ่มต้น 5 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ด้วยเหตุผลหลักคือต่อต้านภัยคุกคามจากสงครามเย็นเพื่อรักษาระบอบการปกครองเดิม และมีส่วนสนับสนุนลัทธิทุนนิยมเสรีประชาธิปไตยที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นแกนนาไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม

จากนั้นมีประเทศอื่นๆ อีก 5 ประเทศเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกตามลาดับ ดังนี้

เนการาบรูไนดารุสซาลาม หรือประเทศบรูไนได้เข้าร่วมสมาชิกเป็นลาดับที่ 6 ในปี 1984 หลังได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรไม่ถึง 1 สัปดาห์  บรูไนเป็นประเทศเล็กๆ ปัจจุบันมีประชากรเพียง 4 แสนคน แต่อุดมด้วยทรัพยากรน้ำมัน ในอดีตเป็นแหล่งเพาะปลูกเครื่องเทศแห่งหนึ่ง

การเข้ามาเป็นสมาชิกอาเซียนเท่ากับมวลหมู่ชาติสมาชิกอาเซียนซึ่งมีฐานะเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงประกาศยอมรับความเป็นชาติอธิปไตยของบรูไน ได้รับการปกป้องจากอาเซียนภายใต้บริบทโลกยุคใหม่ ต่างจากอดีตที่ต้องยินยอมเข้าอยู่ใต้การอารักขาของสหราชอาณาจักรภายใต้
ยุคล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากสเปนและฮอลันดา กรณีของบรูไนเป็นลักษณะเฉพาะแตกต่างจากประเทศอื่นๆ
อีก 4 ประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียนดังจะกล่าวต่อไป

เหตุการณ์ที่ถือเป็นประวัติศาสตร์สาคัญของอาเซียนอีกครั้งหนึ่งคือ การเข้าร่วมของประเทศเวียดนามในปี 1995 ถือเป็นประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ประเทศแรกที่เข้าร่วมอาเซียน (ปัจจุบันเวียดนามยังถูกจัดว่าเป็นรัฐคอมมิวนิสต์) ณ เวลานั้นถือเป็นเรื่องแปลกใหม่เพราะอาเซียนยอมรับประเทศเวียดนามที่มีระบอบการปกครอง มีระบบเศรษฐกิจที่แตกต่างจากประเทศชาติสมาชิกอาเซียนโดยสิ้นเชิง ก่อให้เกิดคาถามและวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุผลการรับเวียดนามเข้ามาอยู่ในอาเซียน หรือทำไมเวียดนามจึงอยากเข้ามาร่วมกับอาเซียน มีผู้อธิบายด้วยเหตุผลที่หลากหลาย

หากจะอธิบายด้วยเหตุผลเชิงการเมืองระหว่างประเทศ สามารถอธิบายได้ว่าในช่วงนั้นสงครามเวียดนามสิ้นสุดนานแล้ว และที่สาคัญกว่าคือสงครามเย็นยุติลงแล้วเช่นกัน การรับเวียดนามเข้ามาเป็นสมาชิกคือการแสดงออกอย่างหนึ่งว่าความขัดแย้งเดิมๆ ได้หมดไป ไม่มีการแบ่งแยกตามขั้วการเมืองระหว่างประเทศแบบเดิมอีก เป็นกุศโลบายให้ทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพวกเดียวกัน สามารถใช้อาเซียนเป็นเวทีเพื่อเสริมสร้างมิตรภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือระหว่างกัน

ส่วนเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ ในระยะแรกไม่ได้หวังเรื่องการทำการค้าการลงทุนเท่าไหร่นัก แต่การเข้าร่วมกลุ่มอาเซียนจะช่วยให้เวียดนามมีโอกาสได้เรียนรู้ประสบการณ์การพัฒนาประเทศแบบทุนนิยมเสรีของชาติสมาชิก เร่งให้เวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจของตนเข้าสู่ระบบตลาดมากขึ้น ในขณะที่เวียดนามก็อยากมีความสัมพันธ์ทางการเมืองกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นเสรีประชาธิปไตย ไม่ยึดอยู่กับแนวคิดในสมัยสงครามเย็นอีกต่อไป และอยากมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศทุนนิยมมากขึ้น อาจดูตัวอย่างจากประเทศจีนที่เปิดประเทศบางส่วนต้อนรับการลงทุนจากนานาชาติ ทาให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต ประเทศพัฒนาอย่างรวดเร็ว

การที่อาเซียนยอมรับเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกจึงถือเป็นก้าวสาคัญครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของอาเซียน เมื่ออาเซียนรับเวียดนามเป็นสมาชิกจึงไม่มีเหตุผลที่ประเทศลาว เมียนมาร์และกัมพูชาจะไม่สามารถเข้ามาร่วมกลุ่มด้วย ในเวลาต่อมาทั้งสามประเทศจึงเข้าร่วมเป็นสมาชิกในเวลาไล่เลี่ยกัน อาเซียนทุกวันนี้จึงมีสมาชิก 10 ประเทศ

ทำไมอาเซียนจึงมีสมาชิก 1
smu.edu.sg

เรื่องการเข้ามาเป็นสมาชิกอาเซียนของประเทศต่างๆ มีรายละเอียดอยู่มาก มีผู้ทำการศึกษาวิจัยไว้ สามารถศึกษารายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ได้ รวมความแล้วหากยึดว่าจุดเริ่มต้นของอาเซียนเกิดจากการที่ชาติสมาชิกเริ่มต้น 5 ประเทศอันได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ประกาศรวมตัวกันเพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากสงครามเย็น เมื่อความตึงเครียดจากสงครามเย็นคลายตัว บริบทโลกเปลี่ยนไปทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ รัฐบาลหรือผู้นาประเทศของทั้ง 5 ประเทศที่โน้มเอียงไปทางทุนนิยมเสรีประชาธิปไตยกับรัฐบาลของประเทศที่โน้มเอียงไปทางสังคมนิยมคอมมิวนิสต์จึงหันหน้าเข้าหากัน และรวมตัวกันภายใต้อาเซียน ถือเป็นการสิ้นสุดสงครามเย็นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบันเป็นยุคที่ภัยคุกคามจากลัทธิสังคมนิยมคอมมิวนิสต์กลายเป็นเรื่องอดีต และน้อยคนจะเอ่ยถึง ทำให้หลายคนลืมหรือไม่รู้ว่าอาเซียนในปัจจุบันประกอบด้วยชาติสมาชิกที่มีการปกครองหลากหลาย มีระบบเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ถือเป็นลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของอาเซียนเลยทีเดียว แต่ภายใต้ลักษณะพิเศษนี้ไม่ได้หมายถึงการมีแต่ประโยชน์หรือข้อดี เพราะมีอุปสรรคที่เกิดตามมาด้วย

อาเซียนมีประวัติดำรงมาแล้ว 40 กว่าปีและมีวิสัยทัศน์จะก้าวไปสู่ความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นจำต้องตระหนักว่ามวลหมู่ชาติสมาชิก 10 ประเทศมีความแตกต่างกันไม่ใช่น้อย การจะเชื่อมต่อระหว่างกันไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมจำต้องออกแบบระบบหรือกลไกที่สามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อให้การรวมตัวของ 10 ประเทศดังกล่าวเกิดประโยชน์ต่อทุกประเทศต่อประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง


3.6อาเซียนมีความสำคัญกับตัวเราอย่างไร
=     1. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และการบริหาร

        2. เพื่อส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงส่วนภูมิภาค

        3. เพื่อเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและพัฒนาการทางวัฒนธรรมในภูมิภาค

        4. เพื่อเสริมสร้างให้ประชาชนในอาเซียนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี

        5. เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในรูปแบบของการฝึกอบรมและการวิจัยและส่งเสริมการศึกษาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

        6. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรและอุตสาหกรรม การขยายการค้า ตลอดจนปรับปรุงการขนส่งและการคมนาคม

        7. เพื่อส่งเสริมความร่วมมืออาเซียนกับประเทศภายนอก องค์การความร่วมมือแห่งภูมิภาคอื่นๆ และองค์การระหว่างประเทศ
3.7ทำไมอาเซียนต้องมีการเพิ่ม ประเทศด้วย
=อาเซียนจะได้มีความมั่นคงในด้าน สังคม และ เศรษฐกิจ

อาเซียน +6 จัดตั้งขึ้นเพื่ออะไร

            สำหรับ "อาเซียน +6" ก็คือ การรวมกลุ่มกันของ 16 ประเทศ ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม, พม่า, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ลาว, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม รวมกับประเทศที่อยู่นอกอาเซียนอีก 6 ประเทศ คือ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และอินเดีย ซึ่งหากนับจำนวนประชากรในกลุ่มนี้แล้ว จะพบว่า อาเซียน +6 มีประชากรรวมกันกว่า 3 พันล้านคน หรือคิดเป็น 50% ของประชากรโลกเลยทีเดียว

            หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมอาเซียนต้องรวมกลุ่มกับอีก 6 ประเทศนอกอาเซียนด้วย คำตอบก็คือ การรวมกลุ่มอาเซียน +6 นี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกลุ่มในการลงทุน การทำการค้า ฯลฯ ให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่น ๆ เช่น สหภาพยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมทำข้อตกลงการเปิดการค้าเสรี ด้วยการจัดตั้งประชาคมอาเซียนขึ้น พร้อมกับผนวกกำลังของแต่ละกลุ่มการค้าเข้าด้วยกัน เพื่อให้กลุ่มประเทศอาเซียนสามารถดำเนินเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น


ความเป็นมาของ อาเซียน +6

           
ที่มาของแนวคิด "อาเซียน +6" นี้ เริ่มขึ้นครั้งแรกในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AEM-METI) และ AEM+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 โดยญี่ปุ่นเสนอให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญภาควิชาการ (Track II) ของกลุ่มประเทศ East Asia Summit (EAS ประกอบด้วยอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย) ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง Comprehensive Economic Partnership in East Asia (CEPEA) ซึ่งเป็น FTA ระหว่างประเทศอาเซียน+6 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์)
            จากนั้น ในการประชุม East Asia Summit ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2550 ณ เมืองเชบู ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ประชุมก็มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยประเทศญี่ปุ่นได้จัดประชุมร่วมกันระหว่างนักวิชาการซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละประเทศครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 เพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศอาเซียน+6 (CEPEA)

            ทั้งนี้ กลุ่มนักวิชาการได้ประชุมร่วมกันทั้งหมด 6 ครั้ง ระหว่างปี พ.ศ. 2550 – พ.ศ. 2551 ก่อนจะได้ผลสรุปว่า หากมีการจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศอาเซียน+6 (CEPEA) จะทำให้เกิดความสะดวกในด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ พลังงาน สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศ


            เมื่อได้ข้อสรุปดังนี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจึงมีมติให้ศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศอาเซียน+6 (CEPEA) ในระยะที่ 2 โดยเน้นเรื่องความร่วมมือ (Cooperation), การอำนวยความสะดวก (Facilitation) และการเปิดเสรี (Liberalization) ที่จะช่วยสร้างความสามารถของประเทศสมาชิก เพื่อรองรับการเปิดเสรีภายใต้อาเซียน+6 (CEPEA)
3.8ถ้าประเทศเราไม่เข้าร่วมอาเซียนจะเกิดผลเสียในประเทศหรือไม่
=เกิดเพราะประเทศในแต่ละภูมิภาคมีการรวมกลุ่มกันถ้าประเทศไทยไม่เข้าร่วมก็จะเกิดผลเสียในด้านความล่าช้าในด้านเศรษฐกิจ
3.9 AEC คืออะไร มีผลกระทบอะไรกับเรา
=AEC หรือ Asean Economics Community คือการรวมตัวของชาติใน Asean 10 ประเทศ โดยมี ไทย, พม่า, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, บรูไน เพื่อที่จะให้มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน จะมีรูปแบบคล้ายๆ กลุ่ม Euro Zone นั่นเอง จะทำให้มีผลประโยชน์, อำนาจต่อรองต่างๆ กับคู่ค้าได้มากขึ้น และการนำเข้า ส่งออกของชาติในอาเซียนก็จะเสรี ยกเว้นสินค้าบางชนิดที่แต่ละประเทศอาจจะขอไว้ไม่ลดภาษีนำเข้า (เรียกว่าสินค้าอ่อนไหว)
3.10ทำไมต้องมีอาเซีขนบวก 3
=เพื่อเพิ่มความมั่นคงแก่เศรษฐกิจ  สำหรับ "อาเซียน+3" (Asean+3 Summit) หรือ อาเซียนพลัสทรี เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสิบประเทศ รวมกับอีก 3 ประเทศนอกอาเซียน ได้แก่ ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งสามประเทศนี้อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และนับเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในระดับโลกเลยทีเดียว

          ทั้งนี้ "อาเซียน+3" ยกระดับความร่วมมือขึ้นในปี พ.ศ. 2540 หลังจากหลายประเทศในเอเชียเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ หรือที่เรียกว่า "ต้มยำกุ้งดีซีส" ในช่วงกลางปี ครั้งนั้น ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้เข้าร่วมพบปะหารือกับผู้นำของประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหาแนวทางรับมือกับภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในเอเชียตะวันออก






***สอบถามจากผู้รู้(อาจารย์ รายวิชาอาเซียน)

อ้างอิง http://hilight.kapook.com/view/76060

       http://hilight.kapook.com/view/75853

     http://ewt.prd.go.th/ewt/region8/ewt_news.php?nid=335&filename=Asean_main

       http://www.trang.psu.ac.th/asean/?p=259